พลังประจำวันวันอังคารที่ 5 ธันวาคม 2017
บทนำสู่พระธรรม 1 ซามูเอล บทที่ 13-24
พระเจ้าทรงทอดพระเนตรที่จิตใจ
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งครอบครัวเราได้เรียนรู้ชีวิตของดาวิดร่วมกัน เมื่ออ่าน 1 ซามูเอล บทที่ 16 เราได้พูดคุยกันว่าการที่พระเจ้าทรงทอดพระเนตรที่จิตใจนั้นหมายความว่าอย่างไร และพบว่ามนุษย์ทั่วไปนั้นตัดสินจากรูปกายภายนอก หลังจากนั้นไม่กี่วันเราก็อ่านเรื่องราวของดาวิดและโกลิอัทที่แสนคุ้นเคย เราจึงคิดว่าจะทำออกมาเป็นการแสดง ลูกสาววัย 5 ขวบ เหมาะที่จะเป็นดาวิดเพราะเธอตัวเล็กสุด และพ่อของเธอควรเป็นโกลิอัทเพราะเขาตัวโตที่สุด แต่ลูกสาวตัวน้อยกลับเห็นต่างอย่างสิ้นเชิง เธอกล่าวว่า “ในสายพระเนตรพระเจ้า ดาวิดนั้นตัวใหญ่มหึมา และโกลิอัทตัวเล็กนิดเดียว ดังนั้นหนูจะเป็นโกลิอัทและให้พ่อเป็นดาวิด” ในตอนที่รบกันโกลิอัทนั้นไม่มีโอกาสทันจะได้สู้ก็พ่ายแพ้เสีย ลูกสาวตัวน้อยของฉันเข้าใจเรื่องที่ว่าพระเจ้าทรงรู้จักเราจากข้างในอย่างหมดเปลือก และไม่มีวันโดนหลอกได้
พระธรรมตอนที่เรากำลังจะได้อ่านนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายตั้งแต่ตอนที่พระเจ้าได้ทรงมองดูจิตใจของซาอูล และถอดท่านออกจากการเป็นกษัตริย์ ดาวิดนั้นมอบจิตใจของท่านไว้กับพระเจ้าแม้ว่าบางครั้งความปรารถนาและการกระทำของท่านจะพลาดพลั้งไปบ้าง โยนาธานและพระขนิษฐาของพระองค์มีคาลได้เผยความในใจของพระองค์ เช่นเดียวกับซามูเอล เจสซี และอาหิเมเลค ที่ได้เผยความปรารถนาในใจออกมา ขณะที่ฉันเขียนบทเฝ้าเดี่ยวเหล่านี้ ฉันก็รู้สึกเศร้าใจนักกับโอกาสต่างๆ ที่ถูกพรากไป จิตใจที่ป่วยไข้ ความโหดเหี้ยมของมนุษย์ และผลลัพธ์ต่างๆอีกมากที่เกิดจากความบาป แต่พระเจ้าก็ยังคงสถิตอยู่ เที่ยงธรรม และปกป้องคนของพระองค์เสมอสดุดีบทที่ 139 ซึ่งแต่งโดยดาวิด เขียนไว้ว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตรวจค้นข้าพระองค์และทรงรู้จักจิตใจของข้าพระองค์ ขอทรงทดสอบข้าพระองค์และทรงรู้จักความคิดของข้าพระองค์” ขอให้คุณได้ประสบการณ์เช่นนี้ขณะที่ใคร่ครวญพระธรรมนี้
ผู้เขียน: โร วิลโลบี (Ro Willoughby)
ตลอดหลายปีที่เป็นบรรณาธิการที่คริสตธรรมสัมพันธ์ โรได้ยืนยันในการแบ่งปันเรื่องราวของพระคริสต์ให้กับเยาวชนและครอบครัวมากมายผ่านพันธกิจของเธอในคริสตจักรมิคาเอล ไฮเกท และสัมมนาเชิงปฏิบัติการ อาร์อี ของเธอในโรงเรียนปฐมศึกษาซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของลอนดอน
พลังประจำวันวันอังคารที่ 5 ธันวาคม 2017
ฉันไม่สามารถรอได้อีกต่อไป
เตรียมจิตใจ:
ขณะที่คุณเตรียมพบพระเจ้าสะท้อนให้เห็นว่าคุณรอคอยพระเจ้าอย่างไรหวังว่าพระองค์จะพบและเสริมกำลังคุณ (อิสยาห์ 40:31)
อ่าน : 1 ซามูเอล 13:1–22
“พระองค์ทรงคอยอยู่ 7 วันตามเวลาที่ซามูเอลกำหนดไว้แต่ซามูเอลไม่ได้มาที่กิลกาลพวกทหารก็กระจัดกระจายไปจากพระองค์” 1 ซามูเอล 13:8
สำรวจและใคร่ครวญ:
ซาอูลได้วางแผนอย่างรอบคอบในขั้นต่อไปที่จะสู้รบกับฟีลิสเตียเขาอาจรู้ว่ากำลังกำลังของฟีลิสเตียมากกว่ากองทหารของอิสราเอลแต่อย่างไรก็ตามตัวเลขที่น่าทึ่งรถรบ 30,000 และพลม้า 6,000 และกองทหารอีกมากมาย (ข้อ 5) ไม่มีประโยชน์ในสนามรบที่เป็นทิวเขาซาอูลได้แสดงความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งโดยอยู่ในความสงบและควบคุมสถานการณ์อยู่เขารอคอยซามูเอลที่สัญญาว่าจะมาที่กิลกาลตามกำหนดเพื่อถวายเครื่องบูชาเผาทั้งตัวและเครื่องศานติบูชาและบอกให้เขารู้ว่าควรทำอะไร (10:8)
แต่เมื่อเวลาผ่านไปการควบคุมเช่นเดิมก็ยากยิ่งขึ้นพวกทหารก็เสียขวัญซามูเอลจะมาหรือไม่? ซาอูลจึงเป็นผู้นำถวายเครื่องบูชาเองโดยที่ไม่ตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้ (ข้อ 11,12) หรือว่าเขาได้เริ่มคิดถึงอำนาจ? เวลาของซามูเอลนั้นเที่ยงตรงอย่างน่าตกใจ
ให้ดูผลกระทบจากการกระทำของซาอูล (ข้อ 13,14) การรอคอยพระเจ้าที่พระองค์จะทรงรักษาคำพูดเป็นความท้าทายซึ่งไม่เป็นกับซาอูลเท่านั้นอับราฮัมและซาราห์ก็ไม่สามารถทนรอคอยลูกที่พระเจ้าทรงสัญญา (ปฐมกาล 15:4; 16:1-4) แต่พยายามเร่งให้เกิดขึ้นทำให้มีผลกระทบที่ก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างมากพวกเราอดทนรอคอยที่พระเจ้าตอบคำอธิษฐานแค่ไหนรอคอยพระองค์ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้รอคอยอนาคตที่มัวๆให้ชัดเจนขึ้น?
ตอบสนอง:
มีสติในทุกวินาทีที่ผ่านไปบอกพระเจ้าถึงทุกสิ่งที่คุณรอคอยการกระทำของพระองค์
หัวใจของคุณมั่นใจหรือไม่ว่าพระองค์ทรงรู้ว่าคุณจะทนได้แค่ไหนและจังหวะของพระองค์ถูกต้องและดี?