พลังประจำวันวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2020
บทนำสู่พระธรรมลูกา บทที่ 7-9
และยิ่งกว่านั้น...
“เรากำลังเข้าสู่การเดินอธิษฐาน...และยิ่งกว่านั้นอีก”
คำพูดเหล่านี้อยู่กับข้าพเจ้าเสมอตั้งแต่ข้าพเจ้าไปเข้าร่วมกิจกรรมในเทศกาลของคริสเตียนเมื่อหลายปีมาแล้วที่รวมเอาคนทุกกลุ่มอายุเข้าด้วยกัน และได้ยินคำพูดเช่นนี้ทุกวัน ข้าพเจ้าเพียงต้องกล่าวคำเหล่านี้ แล้วรู้สึกถึงความคาดหวังและความตื่นเต้นที่จะตามกลับมา พระธรรมลูกาที่เราจะอ่านต่อไปนี้ก็ให้ความรู้สึกนั้นเช่นกันเรากำลังอยู่ในการเดินทางร่วมกับพระเยซู และข้าพเจ้าแทบอดใจไม่ไหวที่จะดูว่าการเดินทางนี้จะนำพาพวกเราไปถึงที่ไหน
ตลอดพระชนม์ชีพของพระเยซูสามารถเปรียบเสมือนการเดินอธิษฐาน โดยเฉพาะในตอนนี้ เราได้เห็นพระองค์เสด็จไปในสถานที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และยิ่งเราเดินไปกับพระองค์ไกลมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้เห็นถึงการดำเนินชีวิต การปฏิสัมพันธ์ของพระองค์กับผู้คนหลากหลาย และการกระทำการอัศจรรย์ต่าง ๆ
ข้าพเจ้าแทบรู้สึกหยุดหายใจเมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ที่พระเยซูและเหล่าสาวกของพระองค์ กับฝูงชนอีกมากมาย ทั้งที่เป็นปัจเจกบุคคลและฝูงชนนิรนาม กำลังเดิน นั่ง แล่นเรือ และรับประทานอาหารไปด้วยกันในการเดินทางที่แสนไกล
เราได้เห็นพระเยซูทรงกระทำการอัศจรรย์ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและกับผู้คน เราได้ยินพระองค์ทรงตรัสด้วยถ้อยคำที่ธรรมดาแต่ลึกซึ้ง ในการรักษาโรค ในคำอุปมา ในการกำราบวิญญาณชั่ว พระองค์ทรงมองเห็นลึกเข้าไปในหัวใจมนุษย์ และทรงตรัสตามที่พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็น พระองค์ทรงตำหนิคนที่ไม่ยอมเข้าใจ และเรารู้สึกอัศจรรย์ใจในผลกระทบของพระองค์ที่ทรงมีต่อผู้คน และการตอบสนองของสรรพสิ่งต่อพระองค์
เมื่อเราเดินทางไปกับพระเยซู เราไม่มีวันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปข้างหน้า ดังนั้น ให้เรามาท่องไปในการเดินทางร่วมกัน
ผู้เขียน: ลิซ ปาเซ (Liz Pacey)
ลิซ มีกลุ่มการกุศลในท้องถิ่นชื่อ Knitwitz เธอชื่นชอบในการนัดสนทนาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการถักทอหนังสือต่างๆ ความอดสูของผู้สูงอายุ และไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามจริง ๆ
พลังประจำวันวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2020
การเดินทางของความเชื่อ
เตรียมจิตใจ
ย้อนกลับไปคิดถึงเวลาที่ชีวิตของคุณกำลังต้องการความเชื่อมากที่สุด จงขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับคนเหล่านั้นที่ยืนอยู่เคียงข้างคุณในตอนนั้น และสำหรับผลลัพท์ที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม
อ่าน : ลูกา บทที่ 7:1-10
“ เมื่อพระเยซูทรงได้ยินคำเหล่านั้นแลัวก็ประหลาดพระทัย จีงทรงเหลียวหลังตรัสกับฝูงชนที่ตามพระองค์มาว่า เราบอกพวกท่านว่า เราไม่เคยพบความเชื่อมากเท่านี้แม้แต่ในอิสราเอล “ลูกา 7:9
สำรวจและใคร่ครวญ:
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ข้าพเจ้าพบปัญหากับเพื่อนคนหนึ่ง เพราะข้าพเจ้าไม่ได้เล่าเรื่องสถานการณ์ที่ข้าพเจ้ากำลังประสบอยู่ให้เธอฟัง เมื่อข้าพเจ้าเปิดเผยปัญหาของข้าพเจ้าให้เธอฟังในที่สุด เธอก็พูดเพียงว่า แต่ฉันก็อาจอธิษฐานเพื่อเธอได้นะ นี่คือเพื่อนแบบที่ทุกคนต้องการมี คือคนที่จะทูลอ้อนวอนขอต่อพระเจ้าเพื่อเรา โดยเฉพาะในเวลาที่เราต้องพบมรสุมในความเชื่อและไม่สามารถทำเองได้ นี่คือเพื่อนแบบเดียวกับเพื่อนของนายร้อยที่ไปอ้อนวอนขอต่อพระเยซูแทนเขา
แม้นายร้อยจะเป็นผู้ที่มีอำนาจมาก แต่เขาก็ไม่ได้ใช้อำนาจของเขาในทางที่ไม่ถูกต้อง และเขากลับมีความเชื่ออย่างแรงกล้าจนทำให้เขากล้าทูลขอต่อพระเยซูอย่างเชื่อมั่นให้ทรงรักษาทาสของเขา (ข้อ7) พวกผู้ใหญ่ของพวกยิวที่มาอ้อนวอนพระเยซูในนามของนายร้อยได้พูดถึงสิ่งที่นายร้อยทำเพื่อพระเจ้า และเหตุผลที่เขาสมควรได้รับการตอบคำอธิษฐาน (ข้อ5) แต่พระเยซูกลับทรงให้ความสำคัญกับความเชื่อของเขา(ข้อ9) ซึ่งมันยิ่งทวีมากขึ้นเมื่อเขารอคอยคำตอบ
ทำไมบางครั้งเรารู้สึกลังเลใจที่จะเข้ามาหาพระเยซูเป็นการส่วนตัว? บางทีอาจเป็นเพราะเราคิดว่า เราไม่ได้เป็นคนที่มีความสำคัญอะไรที่จะมีความเชื่อขนาดนั้น หรือบางทีเราอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องของผู้นำคริสตจักรเท่านั้น
ตอบสนอง:
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทูลขอความเชื่อเหมือนอย่างนายร้อยผู้นั้น ในการรับใช้พระองค์ทุกเวลา มีความรู้สึกห่วงใยผู้อื่นอย่างไม่เห็นแก่ตัว และมีใจกล้าที่จะคาดหวังว่าพระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐาน